THE IRONWOOD

THE IRONWOOD
WHAT I MEAN FOR WORTH LIVING โอบฉันด้วยอ้อมกอดแห่งขุนเขา
 

                สุดสัปดาห์ที่อากาศดี หากคุณเป็นคนนิสัยไม่ติดบ้าน(เหมือนเรา)ก็คงระริกระรี้อยากพาตัวเองออกเดินทางไปยังที่ไกลๆ สักแห่ง ออกไปรับความรู้สึกตอนลมเย็นตีปะทะใบหน้า ออกไปรับไออุ่นของแดด ไปฟังเสียงน้ำไหล พบปะผู้คนใหม่ๆ และล้มตัวลงนอนภายใต้ชายคาที่ไม่ใช่บ้านเราสักสองสามคืน
                สำหรับเรา การออกไปใช้ชีวิตท่ามกลางสิ่งแวดล้อมที่ไม่เคยไปมาก่อนคือประสบการณ์ที่ประเมินค่าไม่ได้ มันให้ความรู้สึกว่าเราใช้ชีวิตได้คุ้มเหลือเกินบนโลกแสนกว้างใหญ่ใบนี้
 

   
โดยรอบเต็มไปด้วยต้นไม้นานาชนิด ที่คนรักต้นไม้จะต้องอดใจไม่ไหวต้องถ่ายรูปไว้แน่นอน

                และนี่ก็เป็นอีกครั้งที่เรารู้สึกแบบนั้นเมื่อได้มาเยือน ‘The Ironwood’ แหล่งพักพิงเล็กๆ โอบล้อมด้วยทิวเขาที่ปลุกปั้นด้วยฝีมือของคุณหยิง - ษุภภภา สนิทวงศ์ หญิงสาวผู้ตกหลุมรักแผ่นดินผืนนี้จากการหลบหนีความวุ่นวายจากเมืองกรุง และได้ทดลองใช้ชีวิตที่นี่เพียงช่วงระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้น คุณหยิงเผยให้เราฟังว่านาม ‘The Ironwood’ (แปลว่า ต้นบุนนาค) นี้มาจากคุณจำเริญ (บุนนาค) สนิทวงศ์ ณ อยุธยา คุณย่าทวดผู้สมรสกับหม่อมราชวงศ์สุวพันธุ์ สนิทวงศ์ ในสมัยรัชกาลที่ 5 และเธอตั้งใจจะสร้างที่นี่เพื่อระลึกถึงคุณย่าทวดและความทรงจำวันเก่า ด้วยความร่วมมือของคุณจำเนียร ทองมา สถาปนิกผู้ร่วมออกแบบ
                The Ironwood มีต้นบุนนาคอันเป็นสัญลักษณ์ตั้งโดดเด่นเป็นสง่าตรงทางเข้า พื้นที่ถูกแบ่งเป็นสามส่วนหลักๆ คือเรือนพักส่วนตัวของคุณหยิงตั้งอยู่ฝั่งซ้าย ตัวบ้านสองชั้นใช้กระจกกรอบดำและอิฐเปลือยให้ความรู้สึกคลาสสิก มีบรรดาน้องแมวซึ่งเป็นสัตว์อันแสนโปรดปรานของคุณหยิงเดินป้วนเปี้ยนรอให้เราไปเกาคอเล่นอยู่หลายตัว ส่วนด้านขวาคือโถงเพดานสูงสไตล์ยุโรป ผ่านซุ้มเสาปูนเปลือยเข้าไปด้านในจะเห็นมุมรับประทานอาหารและของว่างจัดไว้ท่ามกลางของประดับและพันธุ์ไม้ที่มีสีตัดกับอิฐเปลือยหากดูลงตัว
 

  

การตกแต่งเน้นความสบายตา เหมาะแก่การพักผ่อน

                ถัดจากอาคารรับประทานอาหารเป็นบ้านพักหลังเล็ก 4 หลังสำหรับให้บริการ แต่ละหลังถูกตกแต่งด้วยสไตล์ความชอบส่วนตัวของคุณหยิงที่หยิบจับเฟอร์นิเจอร์หลากหลายสัญชาติมาประดับในห้องโทนสีขาวสะอาดได้อย่างมีรสนิยม

  

ส่วนของห้องพักและห้องน้ำก็ถูกออกแบบและตกแต่งมาเป็นอย่างดี

แต่ละห้องพักมีเตียงนอนสีขาวฟูกรอให้เราได้ทิ้งตัวลงคลายความล้า มุมโซฟารับแขกและห้องน้ำให้อารมณ์วินเทจ ล้อมรอบด้วยพรรณไม้และวิวของทิวเขาแสนสบายตา ทั้งยังมีเสียงจากผืนป่ารอบกายที่เราหาฟังไม่ได้ในเมืองใหญ่ให้ได้เงี่ยหูฟัง
 

อาหารที่ปรุงขึ้นจากวัตถุดิบสดใหม่ ทำให้มั่นใจได้ทั้งรสชาติและคุณภาพ

                ผ่านพ้นคืนอันแสนสงบ ที่นี่ยังมีบริการอาหารเช้าเพื่อผู้เข้าพักทุกคน ซึ่งใช้คอนเซ็ปต์การดูแลกันเหมือนเพื่อนดูแลเพื่อน ไม่ไกลจากที่พักมีร้านคาเฟ่เล็กๆ ที่คัดสรรวัตถุดิบคุณภาพมาใช้ทำอาหารและของว่าง ติดกับโรงเพาะพันธุ์ไม้สไตล์โรงนาและลำคลองเล็กๆ คาเฟ่แห่งนี้มีหลายเมนูขึ้นชื่อสำหรับผู้แวะเวียนที่แม้ไม่ได้ใช้บริการห้องพักแต่ก็ยังนิยมเข้ามาชิม อาทิ ข้าวคลุกกะปิดอกไม้ตามฤดูกาล เต้าหูพริกเกลือ ยำผักกูด ปลาดอกไม้ทอด แกงจืดหมึกมะตอย สปาเก็ตตี้ทะเล รวมถึงเมนูที่เราชอบเป็นพิเศษอย่างข้าวเกรียบหลนเต้าหู้
 

  
ข้าวคลุกกะปิดอกไม้ตามฤดูกาล (ซ้าย) และข้าวเกรียบหลนเต้าหู (ขวา)

ทีเด็ดอยู่ที่อาหารทะเลซึ่งสดอย่าบอกใคร เพราะรับมาจากพ่อค้าประมงโดยไม่ได้ผ่านคนกลางใดๆ เราจึงมั่นใจว่าไม่ได้มีสารเคมีปนเปื้อนในเนื้อสัตว์ทะเลเหล่านี้แน่นอน รวมไปถึงผักและผลไม้เกรดดีจากฝีมือการปลูกของชาวบ้าน ซึ่งคุณหยิงรับซื้อมาเพื่อต่อยอดวัฒนธรรมการสร้างรายได้ในชุมชนอีกด้วย
 

ยำผักกูด เฟิร์นที่นอกจากจะหน้าตาดีแล้ว ยังมีรสสัมผัสกรุบกรอบเพิ่มความสดชื่นให้กับมื้ออาหารได้เป็นอย่างดี

 

    
(ซ้ายไปขวา) ปลาดอกไม้ทอด แกงจืดหมึกมะตอย และสปาเก็ตตี้ทะเล

 

                  เมนูเครื่องดื่มก็ไม่น้อยหน้า หากคุณมีโอกาสลองจิบเราขอเสนอสามเมนูแนะนำอย่างน้ำมะนาวกุหลาบ น้ำลิ้นจี่กุหลาบ และน้ำผึ้งมะนาว ยิ่งได้ดื่มแกล้มกับอาหารถูกปากใต้เงาไม้ใหญ่บนโต๊ะเหล็กดัดแสนเก๋ ฟังเสียงลำธารใกล้ตัวไหลเอื่อย การเริ่มต้นวันของคุณคงอัพเลเวลความกระปรี้กระเปร่าได้หลายเท่าตัว
 

น้ำหวานสีสวยรสชื่นใจช่วยดับร้อนและดับกระหาย 
 

                บริเวณคาเฟ่นี้ยังเหมาะแก่การจัดปาร์ตี้ Hang Out ในเวลากลางคืน ให้ความรู้สึกเหมือนได้สังสรรค์กับกลุ่มเพื่อนแบบส่วนตัวสุดๆ ในบรรยากาศสบายกลางหุบเขา องค์ประกอบทุกอย่างของ The Ironwood ทำให้เราอาจพูดได้ว่า...นี่คือหนึ่งในแหล่งพักพิงสำหรับคู่รักและครอบครัวในวันสุดสัปดาห์อย่างแท้จริง
                และเราอาจพูดได้อีกว่าที่นี่ช่วยเติมเต็มคำนิยามของการใช้ชีวิตให้คุ้มค่าของเราได้...คงไม่ผิดนัก